ในยุคที่กาแฟกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของคนทั่วโลก การเปิดร้านกาแฟจึงเป็นความฝันของใครหลายคน สำหรับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ การเริ่มต้นธุรกิจร้านกาแฟอาจดูเป็นเรื่องท้าทาย แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะ Miss Mamon ได้สรุป 12 เรื่องสำคัญสำหรับมือใหม่ที่อยากเปิดร้านกาแฟ ไม่มีประสบการณ์ มาให้แล้ว สามารถนำไปปรับใช้ในการวางแผนเปิดร้านกาแฟของตนเองได้เลย
12 เรื่องที่มือใหม่อยากเปิดร้านกาแฟ ไม่มีประสบการณ์ ต้องรู้!
อยากเปิดร้านกาแฟ ไม่มีประสบการณ์ ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี สามารถลองทำตาม 12 ข้อนี้ดูได้เลย!
1.ประเภทของร้านกาแฟที่อยากเปิด
ร้านกาแฟมีหลายประเภท แต่ละประเภทจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ซึ่งจะส่งผลให้มีกลุ่มเป้าหมาย หรือเมนูเครื่องดื่มที่ควรมีในร้านแตกต่างกันตามไปด้วย ยกตัวอย่างเช่น
- Coffee Kiosk : เป็นร้านกาแฟขนาดเล็กแบบตู้หรือเคาน์เตอร์ ใช้พื้นที่น้อย เหมาะสำหรับทำเลที่มีคนสัญจรพลุกพล่าน เน้นบริการแบบ Grab & Go มีเมนูไม่มาก แต่ใช้เงินลงทุนน้อย
- Full Service : เป็นร้านกาแฟที่มีพื้นที่นั่งในร้าน มีเมนูหลากหลาย ทั้งเครื่องดื่มและขนม สามารถตกแต่งร้านให้มีเอกลักษณ์ได้ แต่ต้องใช้เงินลงทุนและมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสูงกว่า
- Specialty Coffee : เน้นขายกาแฟคุณภาพสูง มีการคัดสรรเมล็ดกาแฟพิเศษ ใช้วิธีการชงที่พิถีพิถัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีความรู้และหลงใหลในเรื่องกาแฟจริงๆ
- Coffee Mixologist : เป็นร้านกาแฟที่เน้นความคิดสร้างสรรค์ ผสมผสานกาแฟกับเครื่องดื่มอื่นๆ สร้างเมนูแปลกใหม่ ต้องใช้ทักษะและความรู้เฉพาะทาง
2. เป้าหมายในการเปิดร้านกาแฟของตนเอง
ก่อนเริ่มต้นธุรกิจร้านกาแฟ สิ่งสำคัญคือการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน คุณต้องถามตัวเองว่า อยากให้ร้านกาแฟของคุณเป็นแบบไหน เน้นบรรยากาศสบาย ๆ สำหรับคนที่ต้องการพักผ่อน หรือเป็นร้านกาแฟสำหรับคนทำงานที่ต้องการความรวดเร็ว ต้องการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก หรือเพียงแค่ต้องการมีรายได้เสริม
การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณวางแผนธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในเรื่องของการลงทุน การตลาด และการบริหารจัดการร้าน นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณสามารถวัดความสำเร็จของธุรกิจได้อย่างเป็นรูปธรรมด้วย
3. กำหนดกลุ่มเป้าหมาย
การกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน เป็นสิ่งสำคัญมากในการทำธุรกิจร้านกาแฟ เพราะจะช่วยให้คุณสามารถออกแบบทุกองค์ประกอบของร้านให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด
ตัวอย่างกลุ่มเป้าหมายของร้านกาแฟ เช่น
- นักศึกษา : อาจต้องการเมนูเครื่องดื่มที่ราคาไม่แพงมาก มีที่นั่งทำงานกลุ่ม และมี Wi-Fi ฟรี
- พนักงานออฟฟิศ : ต้องการความรวดเร็ว อาจมีบริการ Pre-order แล้วค่อยมารับที่ร้าน
- นักท่องเที่ยว : ชอบเมนูเครื่องดื่มที่แปลกใหม่ บรรยากาศภายในร้านตกแต่งสวยงาม มีมุมถ่ายรูปเยอะ ๆ
- ผู้สูงอายุ : ต้องการที่นั่งสบาย เมนูเพื่อสุขภาพ และบริการเป็นกันเอง
เมื่อรู้กลุ่มเป้าหมายชัดเจน คุณจะสามารถปรับทุกอย่างให้ตอบโจทย์ได้ ตั้งแต่การเลือกทำเล การตกแต่งร้าน รสชาติและราคาของเมนู ไปจนถึงวิธีการสื่อสารการตลาด ทำให้สามารถสร้างความประทับใจและดึงดูดลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. เลือกทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม
การเลือกทำเลที่ตั้งที่เหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญมากต่อความสำเร็จของร้านกาแฟ เพราะทำเลที่ดีจะช่วยให้ร้านเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ง่าย และสร้างยอดขายได้อย่างสม่ำเสมอ โดยปัจจัยที่ควรคำนึงจะประกอบไปด้วย 5 หัวข้อหลัก ๆ ได้แก่ การเข้าถึง การสัญจร ความสอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ร้าน จำนวนคู่แข่งในพื้นที่นั้น ๆ และค่าเช่าสถานที่
สำหรับมือใหม่ที่อยากเปิดร้านกาแฟ แต่ไม่มีประสบการณ์ ไม่รู้จะเปิดร้านที่ไหนดี เรามี 4 ทำเลยอดนิยมสำหรับเปิดร้านกาแฟมาฝาก สามารถลองพิจารณาดูได้เลยว่าตอบโจทย์ความต้องการหรือเปล่า
- ใกล้สถานศึกษา หรือออฟฟิศ : เหมาะกับร้านที่เน้นกลุ่มนักศึกษาหรือคนทำงาน
- ในห้างสรรพสินค้า : มีจุดเด่นตรงที่คนเดินผ่านไปมาเยอะ แต่ค่าเช่าพื้นที่อาจสูง และมีข้อจำกัดเยอะ
- ย่านท่องเที่ยว : เหมาะกับร้านที่เน้นนักท่องเที่ยวเป็นกลุ่มเป้าหมาย แต่จะต้องคำนึงถึงช่วง High Season และ Low Season ให้ดี
- ชุมชนที่อยู่อาศัย : เหมาะกับร้านที่ต้องการเป็นจุดนัดพบของคนในชุมชน กลุ่มลูกค้าจะเป็นคนในพื้นที่ ไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลง หากสามารถสร้างลูกค้าประจำได้ ก็มั่นใจเลยว่าสามารถขายกาแฟได้ยาว ๆ เลย
5. งบประมาณในการเปิดร้านกาแฟ
การประมาณการงบประมาณอย่างรอบคอบเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการเปิดร้านกาแฟ โดยเฉพาะสำหรับมือใหม่ เพราะจะช่วยให้คุณเตรียมเงินทุนได้เพียงพอและวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยค่าใช้จ่ายที่ควรคำนวณให้ดีประกอบด้วย ค่าเช่าสถานที่ ค่าตกแต่งร้าน ค่าอุปกรณ์เครื่องชงกาแฟ และเครื่องมือต่างๆ ค่าวัตถุดิบเริ่มต้น ค่าจ้างพนักงาน ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอื่นๆ และที่สำคัญ คุณควรมีเงินสำรองสำหรับค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดและเงินทุนหมุนเวียนในช่วงเริ่มต้นธุรกิจด้วย
โดยทั่วไป การเปิดร้านกาแฟขนาดเล็กถึงกลางอาจใช้งบประมาณตั้งแต่ 300,000 บาท ไปจนถึง 2,000,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดและรูปแบบของร้าน ซึ่งการประมาณการงบประมาณอย่างละเอียดจะช่วยให้คุณเตรียมเงินทุนได้เพียงพอ และวางแผนการเงินในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่องในช่วงเริ่มต้นธุรกิจ
6. คำนวณเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจ
เงินทุนหมุนเวียนเป็นสิ่งสำคัญมากในการดำเนินธุรกิจร้านกาแฟ โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้น เพราะจะช่วยให้คุณมีเงินสดเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายประจำวัน และรักษาสภาพคล่องของธุรกิจไว้ได้ สำหรับมือใหม่ที่ไม่รู้จะเริ่มต้นคำนวณเงินทุนหมุนเวียนในการเปิดร้านกาแฟอย่างไรดี เรามีวิธีคำนวณง่าย ๆ มาฝาก
วิธีคำนวณเงินทุนหมุนเวียน1. ประมาณการค่าใช้จ่ายรายวัน เช่น
- ค่าวัตถุดิบ (เมล็ดกาแฟ นม ฯลฯ)
- ค่าแรงพนักงาน
- ค่าสาธารณูปโภค
- ค่าเช่า (หารเฉลี่ยเป็นรายวัน)
2. คูณด้วยจำนวนวันที่ต้องการสำรองไว้ (อย่างน้อย 90-180 วัน)
ตัวอย่างการคำนวณเงินทุนหมุนเวียน- หากค่าใช้จ่ายรายวันโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 3,000 บาท
- ต้องการสำรองไว้ 120 วัน
- เงินทุนหมุนเวียนที่ต้องเตรียมจะเท่ากับ 3,000 x 120 = 360,000 บาท
7. ความรู้เกี่ยวกับกาแฟ
การมีความรู้เกี่ยวกับกาแฟเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการเปิดร้านกาแฟ ในฐานะผู้ประกอบการที่อยากเปิดร้านกาแฟ ถึงแม้ว่าจะไม่มีประสบการณ์ แต่คุณก็ควรศึกษาเรื่องต่าง ๆ เกี่ยวกับกาแฟอย่างละเอียด โดยเริ่มจากชนิดของเมล็ดกาแฟแต่ละสายพันธ์ุ จากแหล่งปลูกต่าง ๆ ว่ามีรสชาติและคุณลักษณะเด่นอย่างไร เรียนรู้วิธีคั่วกาแฟแต่ละแบบ
รวมถึงวิธีชงกาแฟแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะเมนูพื้นฐานอย่าง Espresso, Cappuccino, Americano, Latte หรือ Mocca และหมั่นชิมกาแฟชนิดต่าง ๆ เพื่อพัฒนาความรู้และสร้างเสริมประสบการณ์ ซึ่งความรู้เหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถเลือกวัตถุดิบที่ดี ชงกาแฟได้อย่างมีคุณภาพ และสามารถให้คำแนะนำแก่ลูกค้าได้อีกด้วย
8. สร้างสรรค์เมนูกาแฟ Signature ของทางร้าน
การสร้างสรรค์เมนูกาแฟที่น่าสนใจเป็นสิ่งสำคัญในการดึงดูดลูกค้าและสร้างความแตกต่างให้กับร้านของคุณ นอกจากเมนูกาแฟพื้นฐานที่ต้องมีแล้ว คุณควรพัฒนาเมนูที่เป็น Signature ของร้านด้วย โดยเมนู Signature อาจเป็นการผสมผสานรสชาติใหม่ๆ การใช้วัตถุดิบท้องถิ่น หรือการนำเสนอในรูปแบบที่แปลกตา เช่น กาแฟผสมน้ำผึ้งลาเวนเดอร์ ลาเต้รสชาไทย หรือกาแฟเย็นที่เสิร์ฟในรูปแบบค็อกเทล หรือเพิ่มเมนูตามฤดูกาล หรือเทศกาลต่าง ๆ เพื่อสร้างความน่าสนใจและกระตุ้นให้ลูกค้าอยากกลับมาลองเมนูใหม่ๆ อยู่เสมอ
9. ตั้งชื่อร้านกาแฟให้โดดเด่น จดจำง่าย
การตั้งชื่อร้านกาแฟเป็นขั้นตอนสำคัญในการสร้างแบรนด์ โดยชื่อร้านควรสื่อถึงเอกลักษณ์ของร้านและจดจำง่าย อาจเป็นชื่อที่เกี่ยวข้องกับกาแฟ สื่อถึงบรรยากาศของร้าน หรือเป็นคำที่มีความหมายพิเศษสำหรับคุณ และเมื่อได้ชื่อร้านแล้ว ขั้นตอนต่อมาก็คือการออกแบบโลโก้ที่สวยงามและเป็นที่จดจำ โดยโลโก้ที่ดีควรสะท้อนถึงบุคลิกของร้านและใช้ได้ดีในทุกสื่อ ทั้งป้ายหน้าร้าน เมนู และสื่อออนไลน์ ทั้งในรูปแบบของภาพสีและภาพขาวดำ
10. เตรียมความพร้อมด้านอื่น ๆ
การเตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การเปิดร้านกาแฟของคุณราบรื่น ยกตัวอย่างเช่น
- การคัดเลือกพนักงานที่มีความรู้ความสามารถและมีใจรักในงานบริการ
- การฝึกอบรมพนักงานให้มีทักษะในการชงกาแฟและการบริการลูกค้าอย่างมืออาชีพ
- การออกแบบร้านให้มีความสวยงาม สะอาด และสอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ของร้าน
- การจัดวางอุปกรณ์และพื้นที่ใช้สอยให้เหมาะสม
- การจัดหาอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการชงกาแฟ เช่น เครื่องชงกาแฟ เครื่องบดกาแฟ แก้วกาแฟ และอุปกรณ์เสริมต่างๆ ให้มีคุณภาพและเหมาะสมกับการใช้งาน
- การจัดเตรียมวัตถุดิบ ทั้งเมล็ดกาแฟ นม ไซรัป และส่วนผสมอื่นๆ ให้มีคุณภาพดีและเพียงพอต่อการใช้งาน
การเตรียมความพร้อมในทุกด้านจะช่วยให้คุณสามารถเปิดร้านและให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่วันแรก
11. วางแผนทำการตลาดให้ดี
การวางแผนการตลาดที่ดีเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างการรับรู้และดึงดูดลูกค้าให้กับร้านกาแฟของคุณ เริ่มจากการสร้างตัวตนให้กับร้านกาแฟผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ อย่าง Website, Facebook, Instagram และ TikTok เช่น การทำคลิปวิดีโอสั้น ๆ แสดงวิธีการชงเครื่องดื่มต่าง ๆ หรือแนะนำเมนูพิเศษของร้านลงบนแพลตฟอร์มเหล่านี้ ซึ่งจะสามารถสร้างความสนใจและการมีส่วนร่วมจากลูกค้าได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้การจัดโปรโมชั่นต่าง ๆ เช่น ส่วนลดสำหรับลูกค้าใหม่ คูปองสะสมแต้ม หรือการจัดกิจกรรมพิเศษในวันสำคัญต่าง ๆ ก็เป็นวิธีที่ดีในการดึงดูดลูกค้าและสร้างความภักดีต่อแบรนด์ และสำหรับใครที่เปิดร้านกาแฟในชุมชนท้องถิ่น อย่าลืมให้ความสำคัญกับการร่วมมือกับธุรกิจท้องถิ่นอื่น ๆ หรือการสนับสนุนกิจกรรมในชุมชน เพราะจะช่วยสร้างการรับรู้และความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าในพื้นที่เป็นอย่างดี
สิ่งสำคัญที่สุดของการทำการตลาดในทุกช่องทางก็คือความสม่ำเสมอ หากคุณทำติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง และพัฒนาการทำโฆษณาร้านอยู่เสมอ เชื่อได้เลยว่า ในเวลาไม่นานร้านของคุณจะต้องเป็นที่รู้จักและมีลูกค้าเข้ามาเรื่อย ๆ อย่างแน่นอน
12. ลงมือทำอย่างเต็มที่
หลังจากที่ได้เตรียมความพร้อมในทุกด้านแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือการลงมือทำอย่างเต็มที่ การเปิดร้านกาแฟเป็นงานที่ท้าทายและต้องใช้ความทุ่มเทอย่างมาก คุณต้องพร้อมที่จะทำงานหนักและเรียนรู้จากประสบการณ์จริง ตั้งใจให้บริการลูกค้าด้วยใจ ใส่ใจในคุณภาพของเครื่องดื่มและอาหารทุกจาน พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะจากลูกค้าเพื่อนำมาปรับปรุงการบริการให้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้คุณต้องพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านการบริหารจัดการ การแข่งขันที่เพิ่มขึ้น หรือการเปลี่ยนแปลงของตลาด การเปิดใจเรียนรู้และพร้อมปรับตัวอยู่เสมอจะช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโตและประสบความสำเร็จในระยะยาว ความมุ่งมั่น ความอดทน และความรักในสิ่งที่ทำจะเป็นแรงผลักดันสำคัญที่จะพาคุณไปสู่ความสำเร็จในการเปิดร้านกาแฟของคุณเอง
เปิดร้านกาแฟ ต้องจดทะเบียนอะไรไหม?
การเปิดร้านกาแฟไม่ใช่เพียงแค่มีเงินทุนและทำเลที่ดีเท่านั้น แต่ยังต้องดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบต่างๆ ด้วย ซึ่งรวมถึงการจดทะเบียนและขอใบอนุญาตที่เกี่ยวข้อง ยกตัวอย่างเช่น
- จดทะเบียนพาณิชย์ : เป็นขั้นตอนแรกในการเริ่มต้นธุรกิจอย่างถูกกฎหมาย สามารถทำได้ที่สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอในพื้นที่ที่ร้านตั้งอยู่ มีค่าธรรมเนียมประมาณ 50 บาท
- ขอหนังสือรับรองการแจ้งจัดตั้งสถานที่จำหน่ายอาหาร : สำหรับร้านที่มีพื้นที่ไม่เกิน 200 ตารางเมตร หรือใบอนุญาตจัดตั้งสถานที่จำหน่ายอาหาร สำหรับร้านที่มีพื้นที่เกิน 200 ตารางเมตร ขอได้ที่เทศบาลหรือองค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่
- จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) : หากร้านมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มกับกรมสรรพากร
- ขออนุญาตติดตั้งป้ายโฆษณา : หากมีการติดตั้งป้ายหน้าร้าน ต้องขออนุญาตจากเทศบาลหรือองค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่
- ใบอนุญาตเครื่องหมายการค้า : หากต้องการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเพื่อปกป้องแบรนด์ของคุณ สามารถทำได้ที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา
การจดทะเบียนและขอใบอนุญาตต่างๆ อาจมีความแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ดังนั้นควรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากหน่วยงานราชการในท้องที่ที่คุณจะเปิดร้าน เพื่อให้มั่นใจว่าคุณได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างครบถ้วน การดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายจะช่วยป้องกันปัญหาในอนาคตและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของคุณ
ขั้นตอนเปิดร้านกาแฟสำหรับมือใหม่ ไม่มีประสบการณ์
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว เชื่อว่ามือใหม่หลายคนคงพร้อมที่จะทำตามความฝันเปิดร้านกาแฟเป็นของตนเองแล้ว เพื่อให้คุณสามารถนำข้อมูลที่เราได้แนะนำในข้างต้นไปใช้ได้ง่าย ๆ เราได้สรุปขั้นตอนเปิดร้านกาแฟมาให้แล้ว ลองทำตามนี้ได้เลย!
- วิจัยตลาดและกำหนดกลุ่มเป้าหมาย โดยเริ่มจากศึกษาตลาดร้านกาแฟในพื้นที่ที่คุณสนใจ วิเคราะห์คู่แข่ง และกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้ชัดเจน
- จัดทำแผนธุรกิจที่ครอบคลุมทั้งด้านการเงิน การตลาด และการดำเนินงาน
- เตรียมเงินทุนให้พร้อม ทั้งเงินทุนในการเปิดร้านกาแฟ และเงินทุนหมุนเวียนจนกว่าธุรกิจจะอยู่ตัว
- หาทำเลที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและงบประมาณของคุณ
- วางแผนการออกแบบและตกแต่งร้านให้สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ และงบประมาณ
- เลือกซื้อเครื่องชงกาแฟ อุปกรณ์ต่าง ๆ และวัตถุดิบคุณภาพดี
- สร้างสรรค์เมนูที่หลากหลายและน่าสนใจ รวมถึงเมนูเฉพาะของร้าน และจะต้องมั่นใจว่า ทุกเมนูเครื่องดื่มมีรสชาติกาแฟที่อร่อย ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา
- วางแผนกลยุทธ์การตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์
- คัดเลือกพนักงานที่มีใจรักงานบริการ และฝึกอบรมให้มีทักษะที่จำเป็น
- จดทะเบียนธุรกิจและขอใบอนุญาตให้เรียบร้อย จะได้ไม่มีปัญหาตามมาในภายหลัง
- ทดลองเปิดร้าน เพื่อปรับปรุงการบริการก่อนเปิดจริง
- เปิดร้านอย่างเป็นทางการ อย่าลืมจัดโปรโมชันเปิดร้าน จะได้ดึงดูดความสนใจจากลูกค้า
- ติดตามผล รับฟังความคิดเห็นจากลูกค้า และพร้อมปรับปรุงการบริการอยู่เสมอ
การทำตามขั้นตอนเหล่านี้อย่างรอบคอบจะช่วยให้คุณเริ่มต้นธุรกิจร้านกาแฟได้อย่างมั่นใจ และมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้น
เสริมเมนูให้หลากหลายง่าย ๆ ด้วย “ขนมทานเล่น ไม่ติดแบรนด์” จาก Miss Mamon
ผู้คนส่วนใหญ่นิยมดื่มกาแฟควบคู่ไปกับการรับประทานขนมทานเล่นต่าง ๆ เช่น คุกกี้ ขนมปังกรอบ หรือซื้อควบคู่กับขนมปังกล่องไว้ทานเป็นมื้อเช้า หรือมื้อเที่ยง ถ้าร้านของคุณไม่มีเมนูเหล่านี้ขาย นอกจากจะเสียรายได้ไปอย่างน่าเสียดายแล้ว ยังอาจสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้ไม่สมบูรณ์ด้วย
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการมือใหม่หลายท่านอาจไม่ได้มีต้นทุนพอที่จะซื้อเครื่องอบขนมมาทำเอง หรืออยากที่จะโฟกัสแค่การทำเมนูกาแฟให้อร่อยก่อน Miss Mamon มีตัวช่วยง่าย ๆ มาแนะนำอย่างการสั่งซื้อเบเกอรี่สูตรโฮมเมด ที่พร้อมติดสติ๊กเกอร์แบรนด์คุณก็พร้อมวางขายได้เลย ทั้งสะดวกและการันตีความอร่อยมากว่า 20 ปี มีเมนูให้เลือกให้เหมาะกับธุรกิจคุณอย่างหลากหลายทั้ง ขนมปังคาว - หวาน เค้กโรล คุกกี้รสยอดนิยม ขนมปังกรอบ และอื่นๆ เพียงเท่านี้ก็ช่วยเพิ่มเมนูในร้านให้หลากหลาย โดยที่ไม่ต้องลงทุนลงแรงเยอะแล้ว!
ตัวอย่างเมนูขนมปัง ขนมทานเล่น จาก Miss Mamon- คุกกี้คอนแฟลกแครนเบอร์รี่
- ทาร์ตเนยสดไส้สับปะรด
- คุกกี้บัตเตอร์ฟลาย
- โอริโอคุกกี้
- มอคค่าอัลมอนด์คุกกี้
- คุกกี้สิงค์โปร
- ทองม้วนหมูหยองสูตรโบราณ
สำหรับท่านใดที่สนใจ สามารถทักมาสอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ทุกช่องทางการติดต่อของเราเลย!
สรุปบทความ เปิดร้านกาแฟ ไม่มีประสบการณ์
การเปิดร้านกาแฟ ไม่มีประสบการณ์ อาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากคุณมีความมุ่งมั่น ใส่ใจในรายละเอียด และพร้อมที่จะทุ่มเทให้กับธุรกิจ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็มีอยู่มาก ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือมีประสบการณ์มาก่อน การเตรียมพร้อมและวางแผนอย่างรอบคอบจะเป็นกุญแจสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จในการเปิดร้านกาแฟของคุณเอง
สำหรับผู้ประกอบการท่านใดอยากเปิดร้านกาแฟ แล้วกำลังมองหาร้านเบเกอรี่ขายส่ง ขนมปังอบใหม่ ขนมเค้ก ของทานเล่น รสชาติอร่อย รับประทานคู่กับกาแฟได้เป็นอย่างดี ที่สามารถช่วยประหยัดงบ และเวลาให้คุณได้มีเวลามากขึ้นกับสินค้าหลักของแบรนด์คุณ สามารถสั่งซื้อกับ Miss Mamon ร้านมาม่อนเค้กสูตรต้นตำรับ และเบเกอรี่โฮมเมด ได้เลยที่ Line OA @missmamon หรือเบอร์โทรศัพท์ 094-545-1441 รับรองว่าจะช่วยลดต้นทุน และเพิ่มกำไรให้กับร้านกาแฟของคุณได้อย่างแน่นอน!